COVID-19 ทำให้ตลาดยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุภาพ คึกคักและโตเร็วมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรหรือยาแผนโบราณ กระแสความต้องการมากขึ้น ผู้ประกอบการมีคำถามเข้ามามากเช่นกันว่า สมุนไพรที่ขึ้นทะเบียนอาหารเสริม กับสมุนไพรที่ขึ้นทะเบียนยา แตกต่างกันอย่างไร
สมุนไพรที่ขึ้นทะเบียนอาหารเสริมได้นั้นจะมีรายชื่อตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสมุนไพรตามประกาศนั้น มักเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้งานโดยบุคคลทั่วไปมาอย่างยาวนานแล้ว หรือมีการวิจัยทดลองในหลายระดับของงานวิจัยแล้ว มีการศึกษาทางเภสัชวิทยา เช่น สารสำคัญ Dose และฤทธิ์ทางชีวภาพชัดเจน ซึ่งมักเป็นการคิดตามหลักการเภสัชวิทยาสมัยใหม่และแพทย์แผนปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายแล้ว การขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น จะมีข้อกำหนดเรื่อง ปริมาณสารสำคัญที่ใส่ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถหวังผลในการรักษา หรือป้องกันโรคได้ แต่จะหวังผลในด้านการส่งเสริมสุขภาพมากกว่าค่ะ
ในขณะที่ยาสมุนไพร จะเป็นการใช้สมุนไพรที่หลากหลายมาตั้งเป็นตำรับ โดยอ้างอิงจากคัมภีร์แพทย์แผนไทย หรือการตั้งตำรับยาเองโดยแพทย์แผนไทยก็ได้ โดยหลักการที่ใช้จะเป็นการปรับสมดุลธาตุ และรสยาของสมุนไพรนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยาสมุนไพรได้มีการพัฒนาไปมาก มีการประยุกต์ความรู้ทางเภสัชวิทยาและแพทย์แผนปัจจุบันเข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำวิจัยในหลายระดับ ไม่ต่างกับอาหารเสริมและยาแผนปัจจุบัน เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาด้านประสิทธิภาพ และปลอดภัยแก่ผู้บริโภค
โดยสรุป สมุนไพรที่ขึ้นทะเบียนเป็นอาหารเสริมได้นั้นมีจำนวนจำกัดกว่ายาสมุนไพร อีกทั้งผลต่อร่างกายก็ต่างกัน ถ้าหวังผลในการรักษาป้องกันโรค หรือการส่งผลต่อการทำงานและโครงสร้างของร่างกาย จะแนะนำเป็นยาสมุนไพร ในขณะที่ถ้าเป็นอาหารเสริมก็อาจจะหวังผลเพียงการส่งเสริมสุขภาพค่ะ
ผู้ประกอบการท่านใด มีข้อสงสัยและคำถามเพิ่มเติม เคนยากุ มีทีมงานเภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ